บทความวิชาการ
การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) สู่ STEAM EDUCATION สำหรับปฐมวัย
เพราะเด็กเล็กเรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อได้ลงมือทำ ค้นหา ทดลอง และสนุกไปกับกระบวนการเรียนรู้
ที่โรงเรียนจารุวัฒนานุกูล เรานำแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) มาออกแบบกิจกรรมที่กระตุ้นการทำงานของสมองในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในระดับปฐมวัย เราเชื่อว่าเด็กในวัยนี้การพัฒนาสมองเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด รวมถึงการพัฒนาจิตใจที่ดีงาม จึงผสมผสานแนวคิดตามหลักวิชาการและจิตวิทยาการพัฒนาของเด็กร่วมกัน
เด็กควรได้ เรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง และ ตั้งคำถามจากความสงสัยของตนเอง เพื่อปูพื้นฐานสู่การคิดวิเคราะห์อย่างสร้างสรรค์ในอนาคต ร่วมถึงการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ไปสู่สังคมและโลก
แนวคิดหลักของ Active Learning ที่บูรณาการสู่ STEAM ในระดับอนุบาล
1. Inquiry-Based Learning คำถามของเด็กคือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้
เด็กเล็กเต็มไปด้วยคำถามว่า ทำไม...? เกิดขึ้นได้อย่างไร? เราจึงสร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เด็ก ตั้งคำถาม แล้วร่วมกันหาคำตอบผ่านกิจกรรม STEAM อย่างง่าย เช่น
2. Learning by Doing เรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง
การเรียนรู้ของเด็กเล็กเกิดขึ้นดีที่สุดผ่านมือ ผ่านร่างกาย ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ผ่านการเล่นสนุก รูปแบบการเรียนของเราจะเน้นเล่นปนเรียน หรือ Play and Learn เด็กจะได้ลงมือ ประดิษฐ์ ทดลอง ปรุงผสม สร้างสรรค์ ด้วยตนเอง เช่น
3. Thinking-Based Learning พัฒนาการคิดอย่างเป็นระบบ
แม้ในวัยอนุบาล เด็กก็สามารถฝึกการคิดเป็นขั้นตอน ผ่านการสังเกต เปรียบเทียบ และตั้งสมมติฐาน เช่น
4. Collaborative-Based Learning ร่วมมือ เรียนรู้ไปด้วยกัน
ผ่านกิจกรรมกลุ่ม เด็กจะเรียนรู้การ แบ่งปันหน้าที่ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เช่น
5. Project-Based Learning การเรียนรู้ผ่านโครงงาน
เด็กจะได้ร่วมออกแบบและลงมือทำโครงงานเล็ก ๆ ที่มีเป้าหมายชัดเจน พร้อมทั้งได้สื่อสารความคิดของตนเอง เช่น
จากการเล่น...สู่การคิดวิเคราะห์
กิจกรรม Active Learning ทั้งหมดล้วนปูรากฐานของ STEAM อย่างนุ่มนวล โดยไม่บีบเร่งพัฒนาการของเด็ก เราออกแบบให้เด็กเรียนรู้ทั้ง ทักษะการคิดแบบวิทยาศาสตร์, การใช้เทคโนโลยีเบื้องต้น, ความคิดสร้างสรรค์ผ่านศิลปะ, ความเข้าใจคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน และ ทักษะการสื่อสารและทำงานร่วมกัน
การศึกษาเชิงสร้างสรรค์และผลิตภาพ (Productive and Creative Thinking Education) เพื่อโลกที่ดีกว่า
บริบทการเปลี่ยนแปลงของโลกและประเทศไทยมีหลากหลายมิติ พัฒนาประเทศในอนาคตจำเป็นต้องสร้างเยาวชนที่เข้มแข็ง มีความรู้ความสามารถที่สร้างสรรค์และผลิตสิ่งต่างๆ ได้ โรงเรียนของเราเรียกว่า การศึกษาพัฒนาคนเพื่อมุ่งเน้นการสร้างสรรค์และสร้างผลิตภาพเพื่อความยั่งยืน (Productive and Creative Thinking Education for sustainable Development) เป็นแนวทางที่มุ่งพัฒนาเยาวชนให้มีความสามารถในการ "สร้าง" ไม่ใช่แค่ "เสพ" (เปลี่ยนจากแนวคิดผู้บริโภค consumerism ไปสู่ผู้ผลิต productivism) โดยมีฐานคิดทางการศึกษา (theories of education) สำคัญหลายประการดังนี้:
1. Constructivism (ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง)
ผู้เรียนสร้างความรู้ใหม่จากประสบการณ์
สนับสนุนการเรียนรู้แบบลงมือทำ (learning by doing)
เป็นการเปลี่ยนผู้เรียนจากผู้รับสารหรือฟังตามคำบอก ผู้สร้างความรู้ด้วยตนเอง
2. Experiential Learning (การเรียนรู้จากประสบการณ์)
ผู้เรียนเรียนรู้จากการทำจริง สังเกต ปรับปรุง 4 วงจรได้แก่ ประสบการณ์ตรง การสะท้อน แนวคิด การทดลองใหม่ ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น การออกแบบ การทดลอง การสร้างชิ้นงาน
3. Creative Thinking & Design Thinking
พัฒนาทักษะการคิดนอกกรอบ แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ช่วยให้ผู้เรียนคิดเป็นระบบจากปัญหา หาแนวคิดใหม่ และเริ่มการลงมือทำ
เพื่อผลักดันให้เกิดนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือทางออกที่สร้างสรรค์
4. Productive Pedagogy (แนวปฏิบัติการเรียนรู้ที่เน้นผลลัพธ์คุณภาพ)
เน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ที่จับต้องได้ เช่น ความสามารถในการคิด วิเคราะห์ สื่อสาร ทำงานร่วมกับผู้อื่น
สร้างแรงจูงใจให้เรียนรู้เพื่อนำไป ใช้ หรือ สร้าง
เน้นการใช้ความรู้ไปสร้างคุณค่าใหม่ ไม่ใช่แค่การจำหรือสอบผ่าน
5. Critical Pedagogy (แนวคิดการศึกษาวิพากษ์)
เน้นการปลุกจิตสำนึกของผู้เรียนให้ตั้งคำถามกับระบบบริโภคนิยม ทุนนิยม
สนับสนุนการศึกษาเพื่อการปลดปล่อย เพื่อสร้างจิตสำนึกใหม่ เพื่อเป็นผู้สร้างสรรค์ทางเลือก ไม่ถูกครอบงำ
6. Entrepreneurial Education (การศึกษาเพื่อการเป็นผู้ประกอบการ)
สอนให้เด็กรู้จักวางแผนผลิตและจำหน่ายสิ่งที่ตนสร้าง
ฝึกการคิดเชิงธุรกิจ ความกล้าเสี่ยง การบริหารทรัพยากร
เปลี่ยนทัศนคติจาก การบริโภค การผลิต การจำหน่าย
7. Transformative Learning (การเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง)
การเรียนรู้ที่แท้คือการเปลี่ยนกรอบคิดของผู้เรียน ให้ผู้เรียนตั้งคำถามกับโลกและเลือกเส้นทางของตนเองอย่างมีเป้าหมาย
เพื่อจุดประกายให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงตัวเองและสังคม
ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง เราเห็นได้ชัดว่าการแข่งขันในภูมิภาคกำลังเข้มข้นขึ้น ประเทศเพื่อนบ้านต่างมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น ขณะที่ประเทศไทยกำลังประสบภาวะการเติบโตที่ชะลอตัว และความท้าทายเชิงโครงสร้างหลายด้าน
แม้ภาพรวมอาจดูน่าวิตก แต่ที่โรงเรียนของเรา เราเชื่อมั่นว่าการศึกษา คือหนึ่งในคำตอบสำคัญของการพัฒนาประเทศในระยะยาว
การศึกษา: หัวใจของการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน
เรามองว่าระบบการศึกษาต้องไม่ใช่เพียงเครื่องมือถ่ายทอดความรู้ แต่ต้องเป็นแรงบันดาลใจและเวทีพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างพลเมืองที่มีความสามารถ คิดวิเคราะห์ และรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้
แนวทางที่โรงเรียนของเรากำลังมุ่งพัฒนา
1. การเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์และคิดวิเคราะห์
เราเน้นให้ผู้เรียนตั้งคำถาม กล้าคิด กล้าแสดงออก ผ่านกิจกรรม Active Learning และการเรียนรู้ผ่านโครงงาน (Project-based Learning)
2. เสริมทักษะดิจิทัล และทักษะศตวรรษที่ 21
โรงเรียนของเราบูรณาการการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี เช่น Coding, การคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) และการใช้งานเทคโนโลยีอย่างมีวิจารณญาณ
3. เชื่อมโยงกับบริบทท้องถิ่น
เราส่งเสริมการเรียนรู้จากชุมชนรอบตัว เช่น การเรียนรู้จากแหล่งวัฒนธรรม การแก้ปัญหาจริงในท้องถิ่น และการพัฒนาทักษะที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
4. พัฒนาครูให้เป็นผู้อำนวยการเรียนรู้
ครูของเราผ่านการอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสามารถออกแบบการเรียนรู้ที่สนุก ทันสมัย และตอบโจทย์ผู้เรียนในยุคดิจิทัล
5. สร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย
เรายินดีร่วมมือกับทั้งภาครัฐ เอกชน และผู้ปกครอง เพื่อสร้างระบบการศึกษาที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศและตลาดแรงงานในอนาคต
จากโรงเรียนหนึ่ง...สู่การเปลี่ยนแปลงทั้งสังคม
แม้เราจะเป็นเพียงโรงเรียนขนาดกลาง แต่เรายึดมั่นว่า คุณภาพไม่ขึ้นอยู่กับขนาด หากมีความตั้งใจจริง วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และความร่วมมือจากทุกฝ่าย เราเชื่อว่าเด็กไทยจะเติบโตขึ้นอย่างมั่นใจ และกลายเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพพร้อมขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า
"เราสอนหนังสือเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ไม่ใช่แค่ให้จำเนื้อหา แต่ให้เข้าใจโลกและสร้างอนาคตของตัวเองได้"
โรงเรียนของเราขอเป็นอีกหนึ่งพลังเล็กๆ
ที่มุ่งมั่นจะร่วมขับเคลื่อนสังคมไทย
ให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง ยั่งยืน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง